ญาติครูเกษียรเคลื่อนไหว หลัง ยิงนร.หญิงวัย 14 ดับคู่คารีสอร์ท

วันที่ 25 กรกฎาคม เมื่อเวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์รายงานว่า ที่งานศพของน้องเอ ด.ญ.วัย 14 ปี ที่พบเป็นตายคู่กับครูประสิทธ์ รู้ปัญญา อายุ 59 ปี ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในอำเภอมัญจาคีรี เมื่อคืนวนที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา นายสุขสันต์ ชาติทอง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 272 ม.3 ต.สระยายโสม อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นบิดาของน้องเอ กล่าวกับผู้สื่อข่าวทั้งน้ำตาว่า ตัวเองเลิกกับมารดาของน้องเอตั้งแต่น้องเออายุขวบครึ่ง ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานที่ต่างจังหวัด แต่ไม่เคยขาดการติดต่อกับทางครอบครัวของแม่ยาย ซึ่งก็คือนางสมพงษ์ เปทา ส่งเงินให้บ้างตามอัตภาพ เมื่อลูกสาวโตก็ติดกันทางโทรศัพท์มือถือเรื่อยมา ผมติดต่อกับลูกสาวตลอด
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมาวันเกิดผม ลูกสาวโทรมาอวยพรวันเกิดให้ผม และยังขอเงินซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ เป็นของขวัญวันเกิดตัวเองคือวันที่ 1 สิงหาคมที่ใกล้จะถึงนี้ ก็รับปากจะซื้อให้ จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก กระทั่งช่วงเที่ยงคืนวันที่ 23 ก.ค.มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นหยิบขึ้นมาดูเป็นรูปลูกสาว จึงกดสายทิ้งเพื่อโทรกลับ เมื่อโทรกลับคนที่รับสายบอกว่า ลูกสาวถูกยิงตายคู่กับคนแก่ในรีสอร์ท และน่าจะถูกคนแก่รายนี้ใช้ปืนยิงน้องเอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมช๊อกมากจึงรีบเดินทางมาที่ขอนแก่น
นายสุขสันต์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ครอบครัวได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม และได้รับคำปรึกษาในด้านกฎหมาย ซึ่งก็อยู่ระหว่างการหารือกัน เมื่อเสร็จงานศพน้องเอ ครอบครัวก็จะดำเนินการหาความยุติธรรมให้น้องเอและครอบครัว ทั้งในเรื่องการเยียวและการฟ้องร้องทางแพ่งด้วย อยากให้ครอบครัวครูประสิทธิ์ มารับผิดชอบในเรื่อที่เกิดขึ้น ขอให้มาเยียวยาไกล่เกลี่ยครอบครัวตามความเหมาะสม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น น้องเอ อายุ 14 คงไม่ดิ้นรนไปในจุดนั้น ถ้าไม่ครูไม่พาไป จึงอยากให้ครอบครัวครูประสิทธิ์ รับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย
ในขณะที่ ที่บ้านของครูประสิทธิ์ รู้ปัญญา ญาติพี่น้องเพื่อนครูส่งพวงหรีดมาร่วมงานศพจำนวนมาก ในขณะเดียวกัน นางกัญญาณัฐ รู้ปัญญา อายุ 29 ปี ลูกสะไภ้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คนในครอบครัวไม่อยากให้เกิด พ่อรับราชการครูมานานไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสีย เพื่อฝูงรักใคร่ ส่วนปัญหาในครอบครัวก็ไม่มี ลูกชาย 2 คน มีครอบครัว หาเลี้ยงตัวเองได้ ส่วนมารดาก็ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเอง พ่อจึงไม่มีภาระใด บ้านก็กู้เงินมาสร้าง แม่เป็นคนจ่าย รถยนต์ที่พ่อใช้ก็เป็นของลูกชาย ส่วนตัวพ่อไม่มีสมบัติใดๆเลย
พ่อรับราชการครู เมื่ออายุมากก็เออลี่ออกมาเพราะอยากพักผ่อน เงินที่เออลี่ออกมานั้นได้มากน้อยไม่มีใครรู้กับพ่อ เพียงพ่อให้ลูกชายคนละ1 แสนบาทก็พอใจแล้ว ส่วนเงินที่เหลือพ่อเอาไปใช้จ่ายอะไร ไม่มีใครรู้ และเมื่อพ่อตายเงินต่างๆที่เกี่ยวกับการรับราชการครู แม่และครอบครัวได้ไปติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีเงินเหลือไม่มาก เพราะพ่อทยอยเบิกออกมาใช้ ทำให้มีเงินเหลือเล็กน้อย อาจจะเพียงพอแค่การจัดงานศพให้พ่อเท่านั้น
นางกัญญาณัฐ ยังกล่าวถึงการที่ครอบครัวน้องเอ อายุ 14 ปี เรียกร้องให้มีการไกล่เกลี่ยเยียวยานั้น ครอบครัวพร้อมเข้าสู่กระบวนการทุกขั้นตอน แต่ทั้งนี้ต้องรอการตรวจพิสูจน์จากหน่วยงานราชการก่อนว่า พ่อยิงน้องเอแล้วฆ่าตัวตายจริงหรือไม่ ส่วนการจะเยียวยาเท่านั้น นั้นก็ต้องดูที่ความเหมาะสม เพราะครอบครัวก็สูญเสียและไม่ได้อยากให้เกิดขึ้น อีกทั้งความสัมพันธ์ของน้องกับพ่อเกิดขึ้นเมื่อใด อย่างไรครอบครัวไม่เคยรับรู้ จึงอยากให้ครอบครัวน้องเอ เห็นใจครอบครัวเราบ้าง
เรียบเรียงโดย นัสฐริกา ทีมข่าวสยามนิวส์ จ.ขอนแก่น
Share on Google Plus

About chorn ra

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.

0 comments:

Post a Comment