
จากกรณีมีหญิงสาวรายหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีการติแฮชแท็กว่า "ประสบการณ์เฮงซวย2019" ในข้อความระบุในทำนองว่า ตนเองถูกหนุ่มส่งเอกสารที่ออฟฟิศตนเองเรียกใช้บริการเป็นประจำมานานกว่า 4-5 ปี มีพฤติกรรมส่งข้อความผ่านไลน์ส่วนตัวมาพูดคุย โดยที่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงาน และจะเริ่มมีการตามจีบแบบคุกคาม ถึงขั้นประกบตามถึงบ้าน สร้างความหวาดกลัวและรำคาญใจให้กับผู้โพสต์เป็นอย่างมาก โดยเจ้าตัวได้โพสต์ภาพข้อความที่สนทนา พร้อมทั้งเอกสารลงบันทึกประจำวันไว้ในโพสต์ดังกล่าวด้วย

นางสาวพัชรี (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี หญิงสาวออฟฟิศที่ถูกหนุ่มแมสเซ็นเจอร์คุกคาม เปิดเผยว่า ตนเองจะมีหน้าที่ประสานงานกับชายคนดังกล่าว จึงมีการแลกไลน์เพื่อติดต่องานกัน โดยให้แมสเซ็นเจอร์รายนี้ไปส่งเอกสารให้กับลูกค้าอยู่เป็นประจำ ถึงขั้นบริษัทให้ความไว้วางใจ แต่มาพักหลังเขาเริ่มมีพฤติกรรมที่แปลกไป โดยมักจะทักไลน์มาถามตนว่าจะกินอะไรไหม เพราะเขาจะเข้ามาในบริษัท ซึ่งในตอนนั้นตนเองก็คิดว่าเขาถามไถ่เพื่อให้ฝากซื้อของตามปกติ จึงไม่ได้คิดอะไร แต่หลังจากนั้นก็เริ่มพูดคุยนอกเหนือจากเรื่องงานบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ และจะซื้อขนมมาให้ตนเองอยู่บ่อยครั้ง ทักมาถามว่าจะกินอะไรไหม วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ไปไหนไหม ตนเองจึงคิดว่ามันเริ่มเยอะเกินไป

โดยทุกครั้งตนเองก็จะมีการปฏิเสธอยู่ตลอด แต่แมสเซ็นเจอร์รายนี้ก็ยังคงซื้อของมาให้ไม่ยอมหยุด และยังเริ่มมีพฤติกรรมคุกคามเข้าหาตนเองมากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงขั้นตามมาโผล่ประชิดตัวถึงร้านสะดวกซื้อที่ตนไปซื้อของ ซึ่งในขณะนั้นตนเองก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่คิดว่าเขาจะตามตนเองจากที่ทำงานมาจนถึงร้านสะดวกซื้อแถวบ้านได้ ตนก็พยายามเดินหนี แต่เขายังคงเดินตาม และถามตนว่าเขาทำอะไรให้ไม่พอใจ ตนโกรธอะไรเขาหรือเปล่า เขาทำอะไรผิด ทำไมต้องเดินหนี ทำไมไม่ยอมตอบไลน์ ซึ่งตนเองได้บล็อกไลน์เนื่องจากไม่อยากคุยและเริ่มหวาดกลัว
ตนเองจึงถามเขาว่าทำไมถึงต้องตามตนเองด้วย เขาก็ตอบมาว่า "พี่ชอบ พี่รัก เห็นอะไรน่ากินก็อยากซื้อมาฝาก ถ้าพี่ไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ให้ พี่จะเครียด" ตนเองจึงตอบกลับไปว่าไม่ได้ชอบเขา และขอร้องว่าอย่าทำแบบนี้อีก เราจะยังคงเป็นเพื่อนร่วมงานกันได้เหมือนเดิม แต่เขาก็ไม่ฟังและยังตอบกลับตนเองว่า "น้องพูดกับพี่มาอย่างนี้ พี่รับไม่ได้ น้องมาพูดกับพี่แบบนี้ พี่บอกตรง ๆ พี่รับไม่ได้"
ซึ่งหลังจากนั้นตนเองเห็นท่าไม่ดี จึงขอให้พนักงานในร้านสะดวกซื้อช่วยแจ้งตำรวจ เขาจึงรีบเดินออกจากร้านไป โดยหลังจากวันนั้นก็ยังคงตามตนเองอยู่เป็นประจำ ทั้ง ๆ ที่ตนเองก็พยายามหนี และบล็อกไลน์ไปแล้วก็ตาม โดยส่วนตัวแล้วตนเองรู้สึกกลัวและหวาดระแวงเป็นอย่างมาก เพราะคิดว่ากำลังโดนคุกคาม และกลัวว่าจะได้รับอันตราย ซึ่งทุกวันนี้เวลาจะกลับบ้านหรือจะออกไปไหน ก็จะต้องชวนเพื่อนไปด้วยตลอดเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย

ด้านนายสุก บุญเพ็ง หรือ สุก อายุ 44 ปี ยอมรับว่าเป็นผู้คอยตามนางสาวพัชรีจริง โดยได้พบเจอและพูดคุยกับนางสาวพัชรีอยู่บ่อยครั้งจนเกิดความรู้สึกชอบพอและถูกชะตา เนื่องจากนางพัชรีเป็นคนน่ารักจึงอยากดูแลเอาใจใส่ ซึ่งโดยปกติเวลาตนเองไปส่งของตามสถานที่ต่าง ๆ แล้วพบของกินอร่อย ๆ หรือน่ากิน ก็มักจะนึกถึงนางสาวพัชรี และจะซื้อไปให้ทุกครั้ง ถึงแม้ว่านางสาวพัชรีจะปฏิเสธทุกครั้งก็ตาม แต่ตนเองก็ยังคงไม่สนใจ และจะตามตื๊อต่อเพราะคิดว่าตนเองทำแล้วมีความสุข
ส่วนเรื่องที่นางสาวพัชรีบอกว่าเขาถูกคุกคาม เพราะตนตามไปหาถึงร้านสะดวกซื้อนั้นก็ยอมรับว่าเป็นความจริง เนื่องจากในวันนั้นตนเองได้นั่งดื่มสุราอยู่กับเพื่อน บริเวณใกล้กับร้านสะดวกซื้อแถวบ้านของ
นางสาวพัชรี เมื่อเห็นนางสาวพัชรีเดินเข้าไปในร้าน ตนเองจึงเกิดความคิดถึงและเดินตามเข้าไปในร้านเพื่อจะคุยด้วย แต่นางสาวพัชรีอาจไม่ทันได้ตั้งตัว ตนจึงโดนนางสาวพัชรีไล่และบอกให้พนักงานในร้านแจ้งความ
นายสุกยอมรับว่าหลังจากนั้นยังคงตามนางสาวพัชรีอยู่เรื่อย ๆ เนื่องจากอยากตามตื๊อให้นางสาวพัชรีมาสนใจบ้าง แต่ก็ไม่ได้ผล กระทั่งได้ทราบจากนักข่าวว่านางสาวพัชรีได้แจ้งความว่าถูกคุกคาม และกลัวตนถึงขนาดนี้ จากนี้ก็จะขอไม่ทำงานให้กับบริษัทที่นางสาวพัชรีทำงานอยู่อีก ทุกวันนี้ที่เข้าไปรับงานที่บริษัทดังกล่าวก็เพียงเพื่ออยากเจอหน้านางสาวพัชรีก็เท่านั้น และอยากจะบอกกับนางสาวพัชรีว่า ขอโทษกับการกระทำที่เกิดขึ้นที่ทำให้กลัว แต่ทุกอย่างก็เป็นเพียงแค่ความรักก็เท่านั้น
คลิปข่าว
ขอบคุณ amarintv
0 comments:
Post a Comment